มูลนิธิอาเซียนและ TikTok ประกาศเปิดตัวโครงการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมอาเซียน 2.0 (ASEAN SEDP 2.0) ซึ่งเป็นโครงการระดับภูมิภาคที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมในอาเซียน
โครงการ ASEAN SEDP จะคัดเลือกธุรกิจเพื่อสังคมในระยะเริ่มต้นและระยะเติบโต 20 ธุรกิจ จาก 10 ประเทศในอาเซียนที่มีส่วนร่วมในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยโครงการฯ จะดำเนินการจัดฝึกอบรมการเสริมสร้างศักยภาพที่เหมาะสมให้กับแต่ละธุรกิจ การให้คำปรึกษาและการฝึกสอน การเข้าถึงตลาด และการสร้างเครือข่ายกับผู้กำหนดนโยบายและนักลงทุนของอาเซียน
โครงการ ASEAN SEDP 2.0 ประกอบไปด้วยกิจกรรมมากมาย อาทิ การเปิดรับสมัครและการคัดเลือกธุรกิจเพื่อสังคมจากทั่วทั้งอาเซียน การพัฒนาหลักสูตร การให้คำปรึกษาและการฝึกสอน การฝึกอบรมการเสริมสร้างศักยภาพ และจะสิ้นสุดลงในวัน Demo Day โดยธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 20 ธุรกิจจะต้องนำเสนอแนวคิดของพวกเขาให้กับเหล่านักลงทุน ซึ่งทีมธุรกิจเพื่อสังคมที่มีผลงานยอดเยี่ยมจะมีโอกาสได้รับทุนสนับสนุนเพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจสูงถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,000,000 บาทไทย
ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิอาเซียนกล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ TikTok เพื่อต่อยอดโครงการ ASEAN SEDP 2.0 ในครั้งนี้ ซึ่งธุรกิจเพื่อสังคมมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมและการพัฒนาที่ยั่งยืนในอาเซียน เราเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยปลดปล่อยศักยภาพของผู้ประกอบการเหล่านี้ และสร้างระบบนิเวศของธุรกิจเพื่อสังคมในภูมิภาคนี้ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น”
ตลอดทั้งการดำเนินการ ทางโครงการฯ จะนำความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนานของมูลนิธิอาเซียนในการกระตุ้นการเติบโตด้านการศึกษาในภูมิภาคนี้ และความมุ่งมั่นของ TikTok ในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รวมถึงความเชี่ยวชาญของบริษัทในการเป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเหลือธุรกิจเพื่อสังคมในการขยายตลาดและรักษาผลงานของพวกเขาในระดับภูมิภาคไว้ได้
โครงการ ASEAN SEDP 2.0 เกิดขึ้นจากความสำเร็จของโครงการที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2563 โดยการต่อยอดการจัดฝึกอบรมและให้คำปรึกษาด้านทักษะทางธุรกิจและการจัดการทางการเงินมาใช้ รวมถึงโอกาสในการสร้างเครือข่ายสำหรับธุรกิจเพื่อสังคมจำนวน 20 ธุรกิจในช่วงการระบาดของโควิด-19
หนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จจากโครงการ ASEAN SEDP มาจาก Surplus Indonesia ซึ่งเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่มีภารกิจในการลดขยะอาหาร โดยพวกเขาได้เชื่อมโยงผู้ค้าปลีกอาหารหรือฟาร์มเพื่อขายผลิตภัณฑ์ที่ล้นสต็อกหรือไม่สมบูรณ์ในราคาครึ่งหนึ่งให้กับลูกค้า ในช่วงที่เกิดโรคระบาด Surplus ได้ช่วยเหลือธุรกิจ MSMEs ของอินโดนีเซียเพื่อป้องกันความเสียหายให้เจ้าของธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการได้ประมาณ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ
“นอกเหนือจากความรู้และทักษะอันมีค่าเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจกิจการเพื่อสังคมแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราได้รับจาก ASEAN SEDP 1.0 คือเครือข่ายที่มีผู้เชี่ยวชาญและธุรกิจเพื่อสังคมที่เหลืออีก 19 ธุรกิจจากทั่วอาเซียน ซึ่ง ASEAN SEDP เป็นหนึ่งในความสำเร็จก้าวแรกของเรา เป็นหลักชัยในการเริ่มต้นการเดินทาง ขยายขนาดธุรกิจ และสร้างแรงผลักดันในสังคม” มูฮัมหมัด อากุง ซาปุตรา ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Surplus Indonesia กล่าว
การเปิดตัวโครงการ ASEAN SEDP 2.0 ที่จัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Southeast Asia Social Impact Forum ซึ่งงานดังกล่าวได้เปิดเผยเอกสารประกาศความร่วมมือโดยฯพณฯ เอกอัครราชทูตเฮง สฤษดิ์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิอาเซียนและผู้แทนถาวรราชอาณาจักรกัมพูชาประจำอาเซียน และเฮเลนา เลอร์ช รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะ ตลาดเกิดใหม่และหัวหน้าฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคมสากลของ TikTok พร้อมด้วยนาย โจว โซ่ว จือ ซีอีโอของ TikTok และ ฯพณฯ แซทวินเดอร์ ซิงห์ รองเลขาธิการอาเซียนด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ร่วมเป็นสักขีพยานภายในงาน
นอกจากนี้ การเปิดตัว ASEAN SEDP 2.0 ยังมีสมาชิกอื่น ๆ ของคณะกรรมการมูลนิธิอาเซียน (Board of Trustees of ASEAN Foundation) เช่น ฯพณฯ เอกอัครราชทูตบวรทัศน์ ดวงจักร์ ผู้แทนถาวรของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำอาเซียน ฯพณฯ เอกอัครราชทูตออง เมียว มยินต์ ผู้แทนถาวรสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ประจำอาเซียน และฯพณฯ เอกอัครราชทูต กก ลี่ เป็ง ผู้แทนถาวรสิงคโปร์ประจำอาเซียนได้เข้าร่วมการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วย
เกี่ยวกับ TikTok
TikTok เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการเผยแพร่วิดีโอแบบสั้นบนมือถือ ภารกิจของเราคือการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และนำความสุขมามอบให้ สำนักงานใหญ่สากลของ TikTok ตั้งอยู่ที่ลอสแองเจลิสและสิงคโปร์ และสำนักงานสาขาอื่น ๆ ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน ดับลิน ปารีส เบอร์ลิน ดูไบ จาการ์ตา โซล และโตเกียว
เกี่ยวกับมูลนิธิอาเซียน
หลังจากที่ประชาคมอาเซียนก่อตั้งมาเป็นเวลาสามทศวรรษ บรรดาผู้นำอาเซียนต่างตระหนักถึงความสำคัญของการแบ่งปันประโยชน์ร่วมกันในหมู่สมาชิก การสร้างความตระหนักรู้ และการติดต่อสื่อสารกันระหว่างประชาชนในอาเซียนที่ยังขาดการดำเนินการที่เหมาะสม ส่งผลให้มีการจัดตั้งมูลนิธิอาเซียนขึ้นในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษในโอกาสครบรอบ 30 ปี ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 สำนักงานมูลนิธิอาเซียนตั้งอยู่ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยชาวอาเซียนเพื่อประชาชนอาเซียน ด้วยวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวคือการสร้างความมั่งคั่งและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาคมอาเซียน โดยมีหน้าที่สนับสนุนการสร้างความตระหนักรู้ อัตลักษณ์ ปฏิสัมพันธ์ และพัฒนาการของประชาชนในภูมิภาคอาเซียน ท่านสามารถดูข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิอาเซียนได้ที่ www.aseanfoundation.org
