Show Me Your Monkey 1

สุดมันส์! Monkey Shoulder จัดงาน Show Me Your Monkey สองคืนเต็ม ฉีกทุกกรอบของค่ำคืนแบบเดิม ๆ สร้างนิยามใหม่ให้กับความสนุกในงานปาร์ตี้ของคนไทย


ล่าสุด Monkey Shoulder (มังกี้ โชลเดอร์) จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “Show Me Your Monkey” ในวันที่ 2 และ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ที่แลนด์มาร์คยอดนิยมสำหรับสายปาร์ตี้ใจกลางทองหล่อ อย่าง Dope & Dirty Upper Room และ CHUPA BKK เพื่อสร้างสีสันให้กับแคมเปญ “Show Me Your Monkey” ที่ต้องการจะชวนเหล่าคอปาร์ตี้มามอบนิยามใหม่ให้กับความสนุกของทุกค่ำคืน และฉีกออกจากกรอบเครื่องดื่มแบบเดิม ๆ ที่ไม่ว่าจะเที่ยวกี่ครั้ง ก็จะสั่งแต่เครื่องดื่มเดิม ๆ ทำให้ไม่ได้ลิ้มลองและสัมผัสกับรสชาติความสนุกแบบใหม่ ๆ รวมถึง ละทิ้งค่านิยมของเครื่องดื่มที่ถูกแบ่งแยกด้วยเพศ ผ่านการนำสองวัฒนธรรมสำคัญของคนไทยมาผสมผสานกับประสบการณ์การกินดื่ม ได้แก่ ศิลปะ และ ดนตรี

Show Me Your Monkey 2

กิจกรรมสุดพิเศษ “Show Me Your Monkey” จัดปาร์ตี้แบบสนุกสนานไม่เหมือนใคร ผ่านการผสมผสานเข้ากับ ศิลปะ และ ดนตรี พร้อมสามแนวเพลงสุดมันส์ ได้แก่ เพลย์ลิสต์เพลงยุค 90’s จาก DJ Whatdatfrog ที่พาทุกคนย้อนวัยกลับไปยังยุคของ Y2K อีกครั้ง และ เพลย์ลิสต์เพลงสุดมันส์สำหรับสายแดนซ์ ที่มาเปลี่ยนฟลอร์ให้ลุกเป็นไฟ โดย DJ Bomberselecta และเซอร์ไพรส์สุดพิเศษในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 3 มีนาคมที่ CHUPA BKK ด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังอย่าง LAZYLOXY ประกบคู่กับ SAMBLACK ที่จะมาสร้างบรรยากาศในงานปาร์ตี้ให้มันส์สุดเหวี่ยง และปิดท้ายความสนุกกันต่อแบบยาว ๆ ด้วยเพลย์ลิสต์เพลง Hip-pop จาก DJ Whatdatfrog และ DJ Bomberselecta ตลอดค่ำคืน

Show Me Your Monkey 3

พิเศษไปกว่านั้น “Show Me Your Monkey” ยังมีการเสิร์ฟเมนูพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวเพลงยอดนิยมของคนไทย เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ในการกินเที่ยวแบบใหม่ทั้งเมนู 90’s Monkey ที่เป็นตัวแทนของเพลงยุค 90’s “รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอโดน” “Undrinkable” และ “คิดถึงเธอทุกที..ที่ดื่มคนเดียว”, เมนู Hip-pop Monkey ที่เป็นตัวแทนของเพลงฮิปฮอปและป็อปฮิตติดหู “ชี้ช้ำกันทั้งปี” “ยังไงดี ยังไงดี กลัวเธอจะกรึ่มจังเลย” และ “Sip & Learn” และ เมนู Dancing Monkey แนวเพลงแดนซ์ อย่าง “พริกล็อค” “ตำลึง” และ “ชา-la-la-la” เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับรสชาติของแนวเพลงโปรด พร้อมบ่งบอกความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมายที่มาสร้างสีสันใหม่ ๆ ให้กับสายปาร์ตี้ ไม่ว่าจะเป็น โซนมังกี้อาร์เคด ที่รวมเอา เลเซอร์เกม มังกี้ปอง และ เครื่องเกมอาร์เคด มาให้ทุกคนได้สนุกกับเพื่อนได้เต็มที่ ตลอดจน โฟโต้ บูธ จาก Monkey Shoulder สำหรับการเก็บโมเมนต์ความสนุกความมันส์ และอวดเรื่องราวความสนุกต่อบนโซเชียลมีเดีย พร้อมลุ้นรับของรางวัลจาก Monkey Shoulder ที่ถูกออกแบบโดย WARHEAD ศิลปินชื่อดัง

หากนักท่องราตรีคนไหนที่ไม่อยากพลาดกิจกรรมและความสนุกจากแคมเปญ Show Me Your Monkey จากแบรนด์ Monkey Shoulder ที่จะมีขึ้นตลอดเดือนมีนาคมนี้ได้ที่ IG @monkeyshouldersea

เกี่ยวกับ Monkey Shoulder

ด้วยขวดที่ดูสะดุดตา ชื่อที่ดึงดูดใจ และบุคลิกอันซุกซนไม่ซ้ำใคร  Monkey Shoulder ได้สร้างสรรค์ความแปลกใหม่ในแวดวงเครื่องดื่มสก๊อตวิสกี้ โดย Monkey Shoulder เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างมอลต์วิสกี้ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับการคัดสรรค์อย่างดีจาก เขตสเปย์ไซด์ ประเทศสก็อตแลนด์  และผลิตโดยการกลั่นทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มลึกและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดย Monkey Shoulder  นี้เป็นวิสกี้ที่รับรองระดับ 86 (แอลกอฮอล์ 43%) สกัดจากข้าวบาร์เลย์มอลต์ 100 ปราศจากการใช้ธัญพืช อีกทั้งยังถูกบ่มในถังเบอร์เบิร์นที่เติมครั้งแรกเพื่อให้ได้ความนุ่มนวลที่ไม่เหมือนใครของตัววิสกี้  Monkey Shoulder จึงเป็นวิสกี้ที่นุ่มและมีรสชาติเข้มละมุน ในขณะเดียวกันก็สามารถผสมเข้ากับค็อกเทลได้อย่างหลากหลาย

ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.MonkeyShoulder.com

เกี่ยวกับ William Grant & Sons

บริษัท William Grant & Sons เป็นโรงกลั่นภายในครอบครัวซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งโดย วิลเลียม แกรนท์ในปี 1887 ปัจจุบันเป็นบริษัทสุราพรีเมียมระดับโลก ถูกดำเนินการต่อโดยผู้สืบทอดรุ่นที่ 5 และผลิตเครื่องดื่มสก็อตวิสกี้ชั้นนำ อาทิ วอสกี้ซิงเกิลมอลต์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกอย่าง Glenfiddich® วอสกี้ซิงเกิลมอลต์อย่าง The Balvenie® และเครื่องดื่มสก็อตผสมที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกอย่าง Grant’s® ตลอดจนสุราแบรนด์ดังอื่น ๆ เช่น Hendrick’s® Gin, Sailor Jerry® Spiced Rum, Tullamore D.E.W.® Irish Whiskey, วิสกี้มอลต์ผสม Monkey Shoulder® และ ลิเคอร์สก็อต Drambuie®

บริษัท William Grant & Sons ได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้กลั่นแห่งปี” จากการแข่งขัน International Wine & Spirit Competition และ International Spirits Challenge รวมทั้งสิ้น 11 ครั้งในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา