1678850349185 1678850349185

“หุ้นกู้โลตัส” (Lotus’s) เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก! คาดเปิดจองซื้อกลางเดือนเมษายน 2566 ชูอันดับความน่าเชื่อถือ A+ สะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงินและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกออมนิแชนแนล

“โลตัส” ( Lotus’s) ผู้นำค้าปลีกออมนิแชนแนล ดำเนินงานภายใต้ชื่อจดทะเบียน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (“บริษัทฯ”) เตรียมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นกู้ของ “โลตัส” (Lotus’s) ได้เป็นครั้งแรก คาดว่าจะออกและเสนอขายประมาณกลางเดือนเมษายน 2566 เผยองค์กรและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “Stable” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 โดยแต่งตั้งสถาบันการเงินชั้นนำเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายในเบื้องต้นจำนวน 8 แห่ง และอยู่ระหว่างการแต่งตั้งเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายให้เข้าถึงนักลงทุนประชาชนทั่วไปได้มากที่สุด มั่นใจได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนที่แสวงหาโอกาสในการลงทุนในกิจการที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และมีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจ

บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยจะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายในเบื้องต้นจำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)  ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และทรูมันนี่ วอลเล็ท ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสในการเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) ให้กับผู้ลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2566 ทั้งนี้ รุ่นอายุและอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

1678850349087

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย  เปิดเผยว่า การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีโอกาสเติบโตอย่างมีศักยภาพในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงภาคท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นในปัจจุบัน และยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต 

ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยเป็นการจัดอันดับ ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565  สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางหลากหลายและครอบคลุม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยทริสเรทติ้งระบุว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีปัจจัยเสริมความแข็งแกร่งจากการมีพื้นที่เช่าในทำเลที่ดีและลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยคาดว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งในธุรกิจค้าปลีกและพื้นที่ให้เช่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 

1678850351195

ปัจจุบัน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกแบบออมนิแชนแนล ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายหลายรูปแบบ โดย  ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 “โลตัส” (Lotus’s) มีร้านค้าปลีกจำนวน 2,578 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 223 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 2,153 แห่ง ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศในการเป็น fulfillment center จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทย รวมทั้งยังร่วมมือกับธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Marketplace) เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค ตลอดจนการเปิดตัวธุรกิจใหม่ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งสะท้อนการปรับตัวของ “โลตัส” (Lotus’s) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า โดยมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 200 แห่ง (ไม่รวมศูนย์การค้าที่มีการลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ LPF จำนวน 23 แห่ง) มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 806,081 ตารางเมตร โดยมีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตของ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นร้านค้าหลัก โดยในจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าจำนวน 70 แห่ง ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 90% และบริษัทฯ ถือหน่วยลงทุน 25% ในกองทุนรวม LPF ที่ลงทุนในศูนย์การค้า 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 339,700 ตารางเมตร ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 183,791.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ซึ่งสะท้อนสัญญาณในทิศทางบวกจากการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจ อันเป็นผลจากการที่สามารถเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติ และประชาชนมีความต้องการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

“ที่ผ่านมา “โลตัส” (Lotus’s) มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและขยายธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิดหลัก “รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส” ด้วยการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพราะเราเชื่อว่าปัจจัยที่ดึงดูดลูกค้า คือ การมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและมีความหลากหลาย ในราคาที่เอื้อมถึง ทำให้สามารถนำเสนอการจับจ่ายที่ครบครันในที่เดียวแก่ลูกค้าได้ (One-Stop Shop) พร้อมกันนี้ เรายังมีแผนที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ร้านค้าของ “โลตัส” (Lotus’s) สามารถเข้าถึงและให้บริการผู้บริโภคได้มากขึ้น และเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตอัจฉริยะของชุมชน หรือ SMART Community Center โดยมีแผนที่จะเปิดร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาใหม่ 4 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 5 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 150 แห่งต่อปี ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังเร่งการจำหน่ายสินค้าออนไลน์โดยได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Lotus’s SMART app ให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าแบบออนไลน์ โดยใช้สาขาของไฮเปอร์มาร์เก็ตและโลตัส โก เฟรช รวม 2,578 สาขา เป็นจุดกระจายสินค้า ที่สามารถส่งสินค้าตรงถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น เรายังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน บนหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ สังคม และส่วนรวม ซึ่งเชื่อว่า การดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลากว่า 28 ปีของ “โลตัส” (Lotus’s) จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ” นายสมพงษ์กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ Lotus’s สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้ 

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-777-6784

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1428 กด#4

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555

บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555

* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 

** ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

*** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำรายการผ่านระบบออนไลน์ ผู้ลงทุนยังสามารถจองซื้อหุ้นกู้ Lotus’s ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้อีกด้วย โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ที่ App Store และ Play Store ดูรายละเอียด วิธีการสมัครแอปฯ และวิธีการจองซื้อได้ที่ www.truemoney.com หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 1240 กด 6