ล่าสุด ชัช – ชัชวาล จันทโชติบุตร Leica Ambassador ประเทศไทย จับมือ Glenfiddich (เกลนฟิดิค) แบรนด์ซิงเกิลมอลต์พรีเมี่ยมระดับโลก ภายใต้บริษัท William Grant & Sons จำกัด ร่วมค้นหาและเปิดตัวคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดในตัวเอง หรือ ‘Single Best Quality’ ในภาคต่อของแคมเปญ “THE WHERE NEXT CLUB” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่สามในประเทศไทย ในงาน “The Adventurous Life” งานที่จะเล่าเรื่องราวชีวิตสุดพลิกผันของคุณชัชผ่านรูปถ่ายและเรื่องราวจาก 8 บุคคลสำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณชัช ในนิทรรศการที่จัดขึ้น ณ Rimshot Bar โลเคชันสุดฮิต ใจกลางสุขุมวิท 22
Adventurous หรือการผจญภัย ซึ่งเป็น Single Best Quality ของ คุณชัช – ชัชวาล จันทโชติบุตร สะท้อนมุมมองการใช้ชีวิตที่เริ่มต้นจากความหลงใหลในการถ่ายภาพเมื่อครั้งเยาว์วัยมาจนถึงการค้นพบตนเอง คุณชัชได้ให้คำนิยาม Single Best Quality ของตนเองว่า ‘Adventurous’ หรือการผจญภัยของชีวิต แบ่งออกเป็นการผจญภัย 3 ช่วงที่ทำให้เขาได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งหล่อหลอมมาเป็น ชัช – ชัชวาล จันทโชติบุตร ในวันนี้ และสู่ “Next” ที่ไม่รู้จบในแบบฉบับของเขาในวันข้างหน้า
เริ่มต้นจากช่วงเวลาแห่งการทดลองในวัยเด็ก ความ PASSIONATE ในการถ่ายภาพ ที่ต้องการยืนหยัดในความเชื่อของตนเองเพื่อให้สิ่งที่รักอย่างการถ่ายภาพกลายมาเป็นอาชีพที่มั่นคงได้ จึงเริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาศักยภาพในการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาด้วยช่วงของการค้นหาและท้าทายตนเอง ความ MYSTERIOUS มากมายในชีวิตที่เขาอยากจะค้นหา เปรียบเสมือนก้าวแรกในการก้าวข้าม comfort zone พร้อมจุดประกายความคิดใหม่ ๆ และคว้าโอกาสในการไปเรียนถ่ายภาพเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ กระทั่งได้กลายมาเป็นหนึ่งใน Leica Ambassador ประจำประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2016
จนมาถึงช่วงปัจจุบันกับการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง หรือ CLARITY ผ่านการค้นพบคำตอบของคำถามที่ว่า ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองคืออะไร ความสุขความทุกข์ของตัวเองคืออะไร จนได้พบคำตอบในสถานที่ใหม่ ณ เขาหลัก จังหวัดพังงา ภายใต้ชื่อ The Place Khaolak หรือ “The Place to meet new friends – เป็นสถานที่ได้พบเพื่อนใหม่” ซึ่งเป็นคอมมิวนิตี้เซิร์ฟที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความหมาย เพราะผู้คนมากมายจากต่างถิ่น ต่างอาชีพ และต่างเส้นทางชีวิตแต่มีความรักในท้องทะเลและการเซิร์ฟ สามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากชีวิตในเมือง เพื่อมาพบปะ พูดคุย แบ่งปันความรู้ ความชอบ และประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปด้วยกัน
ในนิทรรศการ “The Adventurous Life” ได้แสดงให้เห็นเส้นทางชีวิตของคุณชัช ที่ถ่ายทอดผ่านภาพถ่ายของ 8 บุคคลสำคัญในแต่ละช่วงเวลาของการเดินทางในช่วงชีวิต ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดออกมา
“นิทรรศการนี้ เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกและคำขอบคุณ สำหรับบุคคลสำคัญ 8 คนเหล่านี้ในชีวิตของผม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง หรือแม้กระทั่งบุคคลที่ผมได้มีโอกาสรู้จัก ซึ่งล้วนแต่มีส่วนร่วมในการเดินทางที่ทำให้ผมได้มาถึงจุดนี้ ขอบคุณทั้งเรื่องดีและร้ายที่ทำให้ผมได้เผย Single Best Quality ของตัวเองออกมา และขอบคุณ Glenfiddich ที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันและสร้างสรรค์คอมมิวนิตี้ที่เปิดรับความท้าทายและความแปลกใหม่ เพื่อให้เราได้มาค้นหา พัฒนา และค้นพบช่วงต่อ ๆ ไปในชีวิตไปด้วยกัน” คุณชัช – ชัชวาล จันทโชติบุตร กล่าวภายในงาน
นอกจากนี้ เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกใน 3 ห้วงเวลาของชีวิต คุณชัชยังได้ร่วมกับ Glenfiddich รังสรรค์เครื่องดื่มสุดพิเศษที่ถ่ายทอดคำว่า Adventurous ผ่านเครื่องดื่มทั้ง 3 แบบ ให้มีกลิ่นอายของการเดินทางและการผจญภัยของชีวิต เริ่มตั้งแต่ ช่วงเวลาของความ Passionate ที่สะท้อนออกมาในค็อกเทล Glenfiddich 15 ปี ที่โดดเด่นเรื่องความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ให้รสสัมผัสที่เด่นชัด เข้มข้น เหมือน passion ที่แรงกล้า พร้อมวัตถุดิบหลักอย่างเฮเซลนัท และใช้กรานิตาไวน์แดงเพื่อให้รสชาติมีความกลมกล่อมมากขึ้น ต่อด้วยช่วงที่สองของความ Mysterious ซึ่งถือเป็นช่วงของการค้นหาและอยากพัฒนาตัวเองให้สุด โดยช่วงเวลานี้ถูกถ่ายทอดผ่าน Glenfiddich 12 ปี ในค็อกเทลที่ดื่มง่าย ภายนอกอาจดูธรรมดาแต่รสชาติมีความซับซ้อน เปรียบเสมือนการค้นหาตัวตนที่ต้องการบาลานซ์ชีวิต ซึ่งค็อกเทลแก้วนี้ให้รสชาติของส้มจี๊ดและกลิ่นพีชไปพร้อม ๆ กับการผสมผสานกับกลิ่นใบเตยเผาและท็อปด้วย “ลูกชก” ผลไม้ของจังหวัดพังงา จบด้วยช่วงเวลาของความ Clarity ที่ใช้ Glenfiddich 18 ปี ที่ให้สัมผัสเข้มและนุ่มลึกเฉพาะตัว ผสมออกมาเป็นค็อกเทลที่มีกลิ่นของคาโมมาย และวิสกี้สโมคกี้ นอกจากนั้นเราจะได้กลิ่นซีทรัสที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนช่วงเวลาที่คุณชัชใช้ชีวิตที่เขาหลักอย่างชัดเจนและเรียบง่ายอย่างในปัจจุบัน
ร่วมค้นหากุญแจดอกสำคัญหรือ Single Best Quality ของคุณ เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จหรือ NEXT ที่ไม่รู้จบของคุณ ภายใต้แคมเปญ “THE WHERE NEXT CLUB” กับ Glenfiddich แบรนด์กลุ่มวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ระดับโลก ที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และผลักดันการก้าวข้ามขอบเขตของตนเพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ได้แล้ววันนี้
อัพเดทข่าวสาร ข้อมูลของ Glenfiddich (เกลนฟิดิค) และ แคมเปญ Where Next Club ประเทศไทย ได้ทาง อินสตาแกรม @Valleyofthedeer.th
#Glenfiddich #WhereNextClub #FindYourSingleBestQuality #สู่Nextที่ไม่รู้จบกับGlenfiddich
เกี่ยวกับ William Grant & Sons
William Grant & Sons, Ltd. เป็นโรงกลั่นเหล้าของครอบครัว Grant มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรและก่อตั้งโดย William Grant ในปี 1887 ปัจจุบันยังคงดำเนินบริษัทโดยครอบครัวรุ่นที่ 5 และกลั่นสก๊อตวิสกี้ให้กับแบรนด์ชั้นนำของโลกมากมาย รวมถึง Glenfiddich® มอลต์ซิงเกิลมอลต์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์ที่รังสรรค์ขึ้นจากฝีมือ Balvenie® และสก๊อตช์ผสม ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกอย่าง Grant’s® รวมถึงสุราแบรนด์ดังอื่นๆ เช่น Hendrick’s® Gin, Sailor Jerry®, Tullamore D.E.W.® Irish Whisky, Monkey Shoulder® and Drambuie®, Reyka® Vodka และ Milagro® Tequila
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทและแบรนด์ของบริษัทที่ www.williamgrant.com
เกี่ยวกับ เกลนฟิดิค (Glenfiddich)
Glenfiddich ก่อตั้งขึ้นในเมือง Dufftown ประเทศสกอตแลนด์ โดย William Grant เริ่มจากวันคริสต์มาสปี 1887 Grant นำวิธีผลิตที่เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการวิสกี้ ทำให้ Glenfiddich เป็นเลิศในการบ่มสก็อตวิสกี้มานานกว่า 130 ปี และกลายเป็นซิงเกิลมอลต์วิสกี้ตัวแรกที่ได้รับการโปรโมตนอกสกอตแลนด์ และท้ายที่สุดกลายเป็นซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่ขายดีที่สุดและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ปัจจุบัน Glenfiddich จำหน่ายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก แต่เป็นหนึ่งในโรงกลั่นมอลต์เพียงไม่กี่แห่งที่ถูกครอบครองและดูแลโดยครอบครัวทั้งหมด และยังคงผลิตในโรงกลั่นเดิมกับที่ William Grant และลูก ๆ ของเขาสร้างขึ้นด้วยมือ
โดย Glenfiddich 3 รุ่นยอดนิยมก็ต่างมี The Single Best Quality ในแบบของตัวเองเช่นกัน ได้แก่:
เกลนฟิดิค 12 ปี (Glenfiddich 12 Year Old) ซึ่งโดดเด่นเรื่องของการ Balanced
รุ่นบุกเบิกของตระกูลซิงเกิ้ลมอลต์ ที่ผลิตด้วยการบ่มในถังโอ๊คอเมริกาและยุโรปเป็นเวลา 12 ปี ควอลิตี้สัมผัสโดดเด่นด้วยกลิ่นธัญพืช ดอกไม้ มิเนอรัล มอลต์ น้ำผึ้ง ซีทรัส สไปซี่ และโอ๊คกรุ่น ๆ ให้รสสัมผัสที่หอมหวาน กลมกล่อม
เกลนฟิดิค 15 ปี (Glenfiddich 15 Year Old) กับ Innovation ที่ไม่เหมือนใคร
รุ่นที่นิยมที่สุดในเหล่าคอวิสกี้ ควอลิตี้สัมผัสโดดเด่นด้วยกลิ่นดอกไม้ ผลไม้เปลือกดำ รวมถึงกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพร ให้รสสัมผัสที่หนักแน่น แต่หอมหวาน และ ชุ่มคอ โดยถูกบ่มในถัง 3 ถัง ได้แก่ ถังเชอร์รี่ ถังเบอเบินและถังโอ็คใหม่ ก่อนที่จะนำวิสกี้จากทั้ง 3 ถังมาบ่มต่อในถัง Solera Vat เป็นเวลา 15 ปี แล้วค่อยตักเพียงครึ่งหนึ่งของถังมาบรรจุลงขวด นับเป็น Innovation ที่ไม่เหมือนใคร
เกลนฟิดิค 18 ปี (Glenfiddich 18 Year Old) ความ Intense ที่นุ่มลึกเฉพาะตัว
รุ่นที่มีขั้นตอนการผลิตที่พิถีพิถันที่สุด รวมถึงผลิตในจำนวนจำกัด ถูกบ่มในถังโอ๊คที่ผ่านการบ่มเชอร์รี่สีเข้ม และ เบอร์เบิ้นเป็นเวลานาน จึงได้กลิ่นของไม้โอ๊คที่เข้มข้น รสสัมผัสที่ที่นุ่มลึกและเผ็ด โดดเด่นด้วยเกรปฟรุ๊ต แอปเปิ้ล เชอร์รี่ ส้ม แบล๊คเบอร์รี่ ไม้แห้ง เครื่องเทศ และสมุนไพร