ภูมิภาคโทโฮคุ เป็นภูมิภาคที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวพื้นที่ส่วนใหญ่จะมีหิมะตก ทำให้สามารถสนุกสนานกับการเล่นสกีได้ แม้ว่ากิจกรรมหลักของผู้มาเยือนจะเป็นการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด แต่ที่สกีรีสอร์ทในภูมิภาคโทโฮคุยังสามารถชื่นชมปีศาจหิมะชื่อดังระดับโลกแบบใกล้ชิดและเต็มอิ่มกับการขับสโนว์โมบิลได้ด้วย ท่านใดกำลังวางแแพลนเที่ยวฤดูหนาวอยู่ ทาง JR East ขอแนะนำสกีรีสอร์ท 3 แห่งในภูมิภาคโทโฮคุที่มีลานสกีทิวทัศน์หิมะสวยงามน่าประทับใจ
ลานสกีฮักโกดะ (Hakkoda Ski Area) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
ลานสกีฮักโกดะ สามารถเดินทางมาจากสนามบินอาโอโมริด้วยรถบัสโดยใช้เวลาราว 80 นาที ที่นี่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องปริมาณและคุณภาพของหิมะที่มีความหนานุ่ม นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยังยอดเขาและลื่นสกีลงมาจากข้างบนด้วยระยะทางที่ยาวมากสุดถึง 5,000 เมตร โดยระหว่างเล่นสกีสามารถดื่มด่ำกับวิวของภูเขาฮักโกดะได้ด้วย สกีรีสอร์ทเปิดให้บริการในปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ดังนั้น ที่นี่จึงนับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพราะสามารถเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดได้ตลอดจนถึงฤดูใบไม้ผลินั่นเอง และไฮไลต์เด็ดที่ห้ามพลาดคือการชมปีศาจหิมะ (Snow Monster) หรือต้นสนบนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งจะปรากฏให้เห็นแค่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมเท่านั้น
โดยปีศาจหิมะหรือจูเฮียว เป็นปรากฏการณ์ที่หยดน้ำอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาปะทะกันกับต้นไม้จนกลายเป็นน้ำแข็งเกาะตัวกันเป็นชั้นๆ เกิดเป็นทัศนียภาพอันสวยงามหาชมได้ยากเพราะต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างทางธรรมชาติ เมื่อปะทะกับแรงลมที่พัดผ่านจึงก่อตัวเป็นรูปร่างแปลกตาทำให้ถูกเรียกว่า “ปีศาจหิมะ” และยิ่งเมื่อได้มองลงมาจากกระเช้าลอยฟ้ายิ่งสัมผัสได้ถึงความน่าตื่นตาตื่นใจ หากวันไหนอากาศดี สามารถขึ้นกระเช้ากอนโดลาขนาดใหญ่เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของปีศาจหิมะได้ กระเช้ากอนโดลาสามารถรถจุได้ถึง 101 คน การขึ้นมาชมทิวทัศน์จากบนกระเช้าจึงเป็นที่นิยมมาก ถือเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงที่นี่เพราะสามารถเพลิดเพลินกับวิวภูเขาฮักโกดะและวิวภูเขาหิมะที่อยู่ห่างออกไปได้ตลอด 15 นาทีไม่มีเบื่อ แต่อย่างไรก็ตามทัศนวิสัยอาจจะไม่ดีนักหากมาในช่วงที่มีหิมะตกหนัก
・วิธีเดินทาง: นั่ง Tohoku Shinkansen จากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Shin-Aomori ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง จากนั้นให้เปลี่ยนสายเป็นรถไฟสาย Ou Main Line ขึ้นจากสถานี Shin-Aomori มาลงที่สถานี Aomori ใช้เวลาราว 6 นาที แล้วขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Sukayu Onsen นั่งจากสถานี Aomori มาลงที่ป้าย Ropeway Station ใช้เวลาราว 80 นาที
・แผนที่ Google Map www.goo.gl/maps/URiyFZ2jQiUHzQV96
ลานสกีซาโอออนเซ็น (Zao Onsen Ski Resort Area) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata)
ลานสกีซาโอออนเซ็น มีจุดเด่นคือหิมะที่เนียนละเอียดราวผงแป้งหรือที่เรียกว่า พาวเดอร์สโนว์ ซึ่งง่ายต่อการเล่นสกี และนับว่าเป็นสโนว์รีสอร์ทที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่ให้บริการคอร์สสกีทั้งหมด 25 คอร์ส สามารถเล่นสกีได้ตั้งแต่ระดับบีกินเนอร์ไปจนถึงระดับแอดวานซ์เลย ทั้งนี้ ที่ลานสกีไม่ได้มีเพียงแค่กิจกรรมการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดเท่านั้น แต่ยังมีร้านอาหารบนเนินเขาที่จะเสิร์ฟอาหารอุ่นๆ เช่น ราเมน อุด้ง และแกงกะหรี่ รวมถึงอิโมนิ (ซุปเผือกใส่เนื้อวัว) อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดยามากาตะด้วย นอกจากนี้ อย่าพลาดชมทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาซาโอและปีศาจหิมะในเทศกาลประดับไฟปีศาจหิมะ (Zao Juhyo Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2022 ถึง 27 กุมภาพันธ์ 2023
จุดเด่นของเทศกาลประกอบไปด้วย งานแสดงดอกไม้ไฟบนเนินสกี การถือคบไฟลงเนินซึ่งผู้เข้าร่วมจะไถลลงมาตามลานสกีโดยถือคบไฟลงมาด้วย และงานแสดงไฟประดับปีศาจหิมะ นอกจากนี้ ยังสามารถชมแสงไฟหลากสีของปีศาจหิมะท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนจากบนกระเช้าลอยฟ้าซาโอได้ด้วย ปิดท้ายด้วยการแช่ออนเซ็นชื่อดังของจังหวัดยามากาตะที่ซาโอออนเซ็น (Zao Onsen) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับลานสกี ออนเซ็นแห่งนี้เป็นน้ำพุร้อนเก่าแก่ที่ถูกค้นพบเมื่อ 1,900 ปีก่อน คุณภาพของน้ำร้อนที่นี่นับว่าเป็นน้ำพุร้อนกำมะถันชั้นยอดของญี่ปุ่นซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยเรื่องความงาม ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนให้บริการสำหรับคนที่ไปเช้าเย็นกลับด้วย หากได้แวะมาแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนจะช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าหลังจากการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดได้อย่างดี
・วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen ขบวน Tsubasa จากสถานี JR Tokyo ถึงสถานี JR Yamagata ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นให้นั่งรถบัสจากสถานี JR Yamagata มาลงที่ป้าย Zao Onsen Bus Terminal ใช้เวลาราว 40 นาที
・แผนที่ Google Map www.googl/maps/eYFanJBzU5UXE2oC7
ลานสกีเกะโตโคเก็น (Geto Kogen) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate)
ลานสกีเกะโตโคเก็น ขึ้นชื่อว่ามีหิมะตกมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคโทโฮคุ มีคอร์สสกีให้บริการทั้งหมด 14 คอร์ส สามารถเล่นสกีได้ตั้งแต่ระดับบีกินเนอร์ไปจนถึงระดับแอดวานซ์ ทำให้มีผู้มาเยือนที่นี่มากมายเพราะสามารถสนุกสนานได้ทุกวัยนั่นเอง อีกทั้ง ลานเล่นสกีของที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย เช่น การขับรถสโนว์โมบิล และการล่องแก่งหิมะ โดยมีเจ้าหน้าสอนอย่างใกล้ชิด จึงสามารถวางใจได้ในเรื่องความปลอดภัย กิจกรรมทั้งหมดล้วนน่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะคุณจะได้โลดแล่นไปในป่าพร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของหิมะรอบข้าง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติชื่อว่า เกะโตโคเก็นออนเซ็น (Geto Kogen Onsen) ด้วย น้ำร้อนที่นี่มีความเป็นด่างอ่อนๆ จึงได้ชื่อว่าเป็นน้ำร้อนเพื่อผิวสวย มีให้บริการทั้งบ่อน้ำร้อนในที่พัก บ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง และซาวน่า และหากได้แช่น้ำร้อนพร้อมกับชมวิวหิมะสุดอลังการจากบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง นอกจากช่วยอบอุ่นร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ผ่อนคลายหลังจากเล่นหิมะได้ดีทีเดียว
・วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟ Tohoku/Hokkaido Shinkansen ขบวน Hayabusa หรือ ขบวน Yamabiko จากสถานี JR Tokyo ไปยังสถานี JR Kitakami ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง จากนั้นนั่งรถบัสรับส่งจากสถานี JR Kitakami ใช้เวลาราว 30 นาที
・แผนที่ Google Map www.goo.gl/maps/ZxzUGJYvfyPpP57x5
ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุแบบสุดคุ้มด้วย JR EAST PASS (Tohoku area)
คุณสามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวแบบสุดคุ้มได้ในราคา 20,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และราคา 10,000 เยนสำหรับตั๋วเด็ก เพื่อใช้ขึ้นรถไฟชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษแบบจองที่นั่ง และรถไฟ Joyful Train ในพื้นที่ที่กำหนดได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน
รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.jreast.co.jp
ระบบจองที่นั่งแบบใหม่ล่าสุดของ JR-EAST Train Reservation เพื่อการท่องเที่ยวที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
JR-EAST Train Reservation ได้อัพเดทระบบจองที่นั่งออนไลน์แบบใหม่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2564 ทำให้คุณสามารถซื้อบัตรโดยสารได้สะดวกกว่าเดิม ระบบใหม่นี้จะช่วยให้คุณสามารถซื้อบัตรโดยสาร และจองที่นั่งได้ก่อนเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เมื่อถึงประเทศญี่ปุ่นคุณสามารถรับบัตรโดยสาร และขึ้นรถไฟได้ทันที การลงทะเบียนสามารถทำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถทำการจองในวันนั้นได้ทันทีเลย โปรดอ่านรายละเอียดการจองเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้างล่าง www.eki-net.com