อย่างที่รู้กันว่าการนำเข้าสินค้าจากจีนมาประกอบธุรกิจในยุคปัจจุบันนั้น สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่ธุรกิจต่างๆ มากมาย เพราะสินค้าจากจีนที่ส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ทำให้จีนมีกำลังการผลิตสินค้าจำนวนมากช่วยลดต้นทุนค่าสินค้าให้ถูกลง ในขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็ยังมีมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการภายในประเทศให้มีศักยภาพในการผลิตสินค้าเพื่อการแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นหากเจ้าของธุรกิจนำเข้าสินค้าที่ต้องการสร้างผลกำไรให้แก่ธุรกิจของตน การนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนนับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับสภาวะการตลาดในยุคนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง ในปัจจุบันการนำเข้าสินค้าจีนมาประกอบธุรกิจในประเทศไทยนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้มีอีกหนึ่งธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสอดคล้องกันอย่างมีนัยยะนั่นคือ ธุรกิจให้บริการขนส่งและนำเข้าสินค้าจากจีนหรือที่เรียกติดปากกันว่าชิปปิ้งจีนหรือคาร์โก้จีนนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลของการนำเข้าของคู่ค้าไทย โดยกรมศุลการ ปี 2565 พบว่าประเทศไทยมีสถิติการนำเข้าจากประเทศจีนสูงสุดเป็นอันดับที่หนึ่งด้วยตัวเลขที่มากถึง 2,487,122,828,719 บาท รองลงมาคือ ญี่ปุ่น อเมริกา ตามลำดับ
(ข้อมูลจาก : รายงานสถิติการนำเข้าสินค้า พ.ศ. 2565 จากกรมศุลกากร)
ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ธุรกิจชิปปิ้งจีนและคาร์โก้จีนในปี พ.ศ. 2566 มีแนวโน้มที่จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจมากมายที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน เพราะการมีชิปปิ้งจีนคอยสนับสนุนและให้บริการช่วยเหลือ ทำให้ทั้งการส่งออกจากจีนและการนำเข้าและพิธีศุลกากรต่างๆ ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ในปัจจุบันนักลงทุนจะให้ความสนใจในธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งและนำเข้าสินค้าจากจีน และอยากจะริเริ่มลงทุนในธุรกิจด้านนี้กันมากขึ้น แล้วการลงทุนในธุรกิจคาร์โก้จีนต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกัน
1. ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (International logistics infrastructure system) สิ่งแรกเลยที่เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญอย่างมากถ้าคุณอยากเป็นเจ้าของธุรกิจคาร์โก้จีน คือโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ อาทิเช่น โกดังสินค้าทั้งจีนและไทย ตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งสินค้า รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ เครื่องมือในการขนส่งต่างๆ (Loading) รถขนส่งกระจายสินค้าในประเทศไทย เป็นต้น โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ก็เพื่อให้การขนส่งระหว่างประเทศสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
2. ระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ (Logistics Technology) การประกอบกิจการคาร์โก้จีนในยุคปัจจุบันต้องมีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัย เพื่อการสร้างและเก็บรวมรวบข้อมูลด้านโลจิสติกส์และนำมาบริหารจัดการในการขนส่งสินค้าได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะการขนส่งระหว่างประเทศจำเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าจะมีความต้องการและติดตามสถานะของสินค้าตนเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อวางแผนในการบริหารธุรกิจของตน ซึ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าตกหล่น สูญหาย และยังได้ข้อมูลเชิงลึกให้กลับไปพัฒนาธุรกิจต่อในอนาคตอีกด้วย
3. บุคลากรด้านโลจิสติกส์ (Logistics Personnel) สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยในธุรกิจนี้คงจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์คอยแนะนำและให้บริการด้านการขนส่งระหว่างประเทศโดยเฉพาะ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ชิปปิ้ง คอยทำหน้าที่ติดต่อและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทั้งการส่งออกจากประเทศจีน และพิธีการนำเข้าในประเทศไทย โดยผ่านขั้นตอนต่างๆที่ถูกต้อง ซึ่งกลุ่มบุคลากรในธุรกิจนี้ นับได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ธุรกิจนำเข้าสินค้าจีน-ไทย ให้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการขนส่งสินค้า
4. บริการหลัก และ บริการเสริม ( Main services and additional services) นอกเหนือจากการทำหน้าที่ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนโดยการขนส่ง ทางรถ (Truck Service) ทางเรือ (Sea-Freight Service) การเหมาปิดตู้คอนเทนเนอร์ (FCL) ซึ่งเป็นบริการหลักของธุรกิจคาร์โก้จีนแล้วนั้น การช่วยเหลือด้านอื่นๆแก่ลูกค้าในการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนก็มีส่วนสำคัญในธุรกิจนี้ด้วยเช่นกัน โดยเราเรียกบริการเหล่านี้ว่า บริการเสริม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่หลาย ๆ คาร์โก้จัดทำขึ้นเพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้เลือกใช้บริการ อาทิเช่น การรับหาสินค้า รับพรีออเดอร์สินค้าจีน บริการฝากจ่ายโอนเงินจีน การเป็นล่ามติดต่อร้านค้าและโรงงานจีน หรือแม้แต่การช่วยเหลือเรื่องจัดทำเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบกำกับภาษี เอกสาร Form-E เป็นต้น
5. แผนการขายและการตลาด (Sales & Marketing Plan) ไม่ว่าอย่างไรในการทำธุรกิจคาร์โก้จีน การวางแผนการขายและการตลาดก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจเช่นกัน เพราะปัจจุบันในธุรกิจนี้มีการแข่งขันกันอยู่สูงมาก ผู้ให้บริการคาร์โก้จีนส่วนใหญ่ก็จะมีจุดเด่นในด้านต่างๆแตกต่างกันไป เพราะอย่าลืมว่าไทยมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมาเป็นอันดับที่หนึ่ง ซึ่งแสดงว่ารายได้ในธุรกิจนี้นั้นย่อมสูงตามไปด้วย ทำให้คาร์โก้จีนที่ต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ จำเป็นต้องมีแผนธุรกิจและการตลาดที่ดี เพื่อผลักดันยอดขายและแบรนด์ของตนให้เป็นที่ยอมรับแก่ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการขนส่งและนำเข้าสินค้าจากจีนให้มาใช้บริการในระยะยาว
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญสำหรับใครก็ตามที่ต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเปิดธุรกิจคาร์โก้จีนในประเทศไทย แต่หากมองแล้วว่าไม่สามารถเริ่มธุรกิจได้เองเพราะมีขั้นตอนต่างๆมากมาย อีกทั้งต้องลงทุนในโครงสร้างด้านโลจิสติกส์ที่ต้องใช้งบประมาณสูง และไม่มีความเชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในธุรกิจดังกล่าวเลย การมองหาแฟรนไชส์ในธุรกิจนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ และไม่ต้องลงทุนในอัตราส่วนที่สูง แต่สามารถเข้าไปอยู่ในธุรกิจที่มีมูลค่าในตลาดมหาศาลได้ การเลือกเป็นแฟรนไชส์ซีของธุณกิจคาร์โก้จีนก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจทีเดียว ซึ่งข้อดีของการเริ่มธุรกิจแฟรนไชส์ มีดังต่อไปนี้
1. เริ่มธุรกิจได้ง่าย เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ มีรูปแบบการทำธุรกิจที่สามารถนำไปใช้ได้เลย มีการฝึกอบรม สนับสนุนอุปกรณ์ โดยแทบจะไม่ต้องคิดอะไรเอง
2. ไม่ต้องลองผิดลองถูก ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์ใหม่ ไม่ต้องทำการตลาดใหม่ เพราะแฟรนไชส์ต่างๆ มักจะเป็นที่รู้จักมาในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และตัดสินใจใช้บริการได้ง่ายกว่า
3. กำหนดวงเงินลงทุนได้ไม่บานปลาย โดยลงทุนครั้งเดียวเก็บเกี่ยวระยะยาว สามารถคุมงบประมาณให้เป็นไปตามที่เราเตรียมไว้ได้
4. สำหรับช่องทางการเติบโตของธุรกิจ การซื้อแฟรนไชส์จะทำให้เกิดช่องทางการเติบโตทันทีตามที่ระบบวางเอาไว้ตาม Business Model
5. เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย เนื่องจากหลายธนาคารจะมีการปล่อยกู้เพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ว่ามีโอกาสอนุมัติสูงกว่าธุรกิจส่วนตัวที่สร้างเอง
คิดออกหรือยังคะ? ว่าจะไปทางไหนดี ซ้ายหรือขวา เริ่มธุรกิจคาร์โก้จีนด้วยตัวเอง หรือซื้อแฟรนไชส์ดี ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ธุรกิจแฟรนไชส์เองก็เช่นกัน แม้จะเหมือนเป็นการซื้อระบบ ซื้อความสำเร็จของแบรนด์นั้นมาบริหารจัดการ ถึงแม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่มีโอกาสที่จะเติบโตสูงกว่าหากเราเลือกแบรนด์ที่เป็นมืออาชีพ และมีมาตรฐาน
โดยเว็บไซต์ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ได้แนะนำฟาสต์ คาร์โก้ แฟรนไชส์คาร์โก้แห่งแรกในประเทศไทย ให้เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่น่าลงทุน
ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีโลจิสติกส์ และแอปพลิเคชั่นติดตามสถานะสินค้าให้แฟรนไชส์สามารถใช้งานได้ฟรี พร้อมให้สามารถเริ่มต้นทำกำไรได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ต้น ด้วยคอนเซปต์ “ลงทุนน้อย คืนทุนไว กำไรดี” ราคาแฟรนไชส์ 190,000 บาท และใช้งบในการลงทุนประมาณ 539,000 บาท ใช้รูปแบบอาคารพาณิชย์หน้ากว้างไม่น้อยกว่า 4 ม. มีพื้นที่ใช้สอยขั้นต่ำ 100 – 250 ตรม. รวมถึงมีการฝึกอบรมทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ตามแผน Business Model อย่างมืออาชีพ
ปัจจุบันฟาสต์ คาร์โก้ ให้บริการด้านการนำเข้าสินจากจีนมาแล้วกว่า 10 ปีเต็ม มีสาขาแฟรนไชส์ให้บริการเพื่อรองรับความต้องการในการนำเข้าสินค้าจากจีนทั่วประเทศทั้งหมด 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพ (สำนักงานใหญ่) สาขาเชียงใหม่ สาขาโคราช สาขาอุดรธานี สาขานครปฐม
สนใจธุรกิจแฟรนไชส์กับฟาสต์ คาร์โก้ สามารถสอบถามรายละเอียดการร่วมลงทุน โทร 099-009-9697 ดูรายละเอียดเพิ่ม www.fastcargologistic.co.th