![‘ดุสิตธานี’ ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืน 2030 ตามกรอบสหประชาชาติ เปิดตัว ‘ทรี ออฟ ไลฟ์’ (Tree of Life) โปรแกรมด้านความยั่งยืน 2 portrait asian farmer man woman holding wooden box full fresh raw vegetables organic farm concept 1150 55831](https://coolzaa.com/wp-content/uploads/2023/07/portrait-asian-farmer-man-woman-holding-wooden-box-full-fresh-raw-vegetables-organic-farm-concept_1150-55831-1200x799.jpg)
สะท้อนเจตจำนงค์ที่มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจของดุสิตธานีใน 19 ประเทศทั่วโลก
กลุ่มดุสิตธานี ประกาศเดินหน้าเป้าหมายสู่ความยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติ 2030 เปิดตัวโปรแกรม “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) วางแนวทางสร้างความยั่งยืน 4 ระดับ ภายใต้เกณฑ์พัฒนา 31 ข้อ ที่ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยโปรแกรมจะถูกนำมาใช้กับทุกกลุ่มธุรกิจภายใต้การบริหารของกลุ่มดุสิตธานี โดยจะเริ่มจากโรงแรมและรีสอร์ท 54 แห่งที่กระจายอยู่ใน 19 ประเทศทั่วโลก เผยใช้ “ใบไม้แห่งทรี ออฟ ไลฟ์” เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการผ่านมาตรฐานในระดับต่างๆ หวังตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการที่มีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับโลก พร้อมส่งต่อการมีส่วนร่วมและความภาคภูมิใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ผู้ถือหุ้นและชุมชน
![‘ดุสิตธานี’ ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืน 2030 ตามกรอบสหประชาชาติ เปิดตัว ‘ทรี ออฟ ไลฟ์’ (Tree of Life) โปรแกรมด้านความยั่งยืน 3 1690356168351](https://coolzaa.com/wp-content/uploads/2023/07/1690356168351-1200x801.jpg)
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป้าหมายสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี นอกจากจะดำเนินการบน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ สร้างความสมดุล สร้างการเติบโต และการกระจายความเสี่ยงแล้ว กลุ่มดุสิตธานียังมีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นความยั่งยืนที่สามารถส่งต่อไปยังทุกภาคส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า สังคม รวมถึงชุมชน ด้วยการก้าวสู่การสร้างความยั่งยืนตามกรอบองค์การสหประชาชาติปี 2030 (United Nations Sustainable Development Goals : UN SDGs 2030) โดยล่าสุด กลุ่มดุสิตธานี ได้ดำเนินนโยบายด้านความยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) ซึ่งจะครอบคลุมหน่วยงานของกลุ่มดุสิตทั้งหมด เริ่มจากโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตทุกแห่งทั่วโลก รวมถึงโรงแรม 54 แห่งที่เปิดดำเนินงานอยู่ใน 19 ประเทศ ขณะที่หน่วยธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการศึกษา กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ จะเข้าร่วมโปรแกรมในเร็วๆ นี้
![‘ดุสิตธานี’ ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืน 2030 ตามกรอบสหประชาชาติ เปิดตัว ‘ทรี ออฟ ไลฟ์’ (Tree of Life) โปรแกรมด้านความยั่งยืน 4 DTKR Garden Lifestyle 2](https://coolzaa.com/wp-content/uploads/2023/07/DTKR_Garden_Lifestyle_2-1200x800.jpg)
โครงการ Tree of Life แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ด้วยหลักเกณฑ์ทั้งหมด 31 ข้อ ที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติที่ทางบริษัทฯ ได้คัดเลือกไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานีมีการดำเนินงานอย่างยั่งยืนครอบคลุมองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
![‘ดุสิตธานี’ ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืน 2030 ตามกรอบสหประชาชาติ เปิดตัว ‘ทรี ออฟ ไลฟ์’ (Tree of Life) โปรแกรมด้านความยั่งยืน 5 LocalFeast](https://coolzaa.com/wp-content/uploads/2023/07/LocalFeast-1200x800.jpg)
สำหรับโปรแกรมระดับที่หนึ่งซึ่งถือเป็นภาคบังคับ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบและแนวทางปฎิบัติสำหรับทุกหน่วยงาน ครอบคลุมเกณฑ์สำคัญ 8 ประการ ได้แก่ การคุ้มครองพืชและสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธ์ การลดขยะจากอาหาร การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มปริมาณการรีไซเคิล การส่งเสริมการอนุรักษ์และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับความสำคัญของพนักงานและสวัสดิภาพของลูกค้าผ่านแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการความปลอดภัยที่เข้มงวด การต่อต้านการค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศ และร่วมกันทำงานกับผู้นำชุมชนท้องถิ่นอย่างแข็งขันเพื่อสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ที่สามารถประเมินค่าและวัดผลได้ให้กับชุมชนของกลุ่มดุสิตธานีในวงกว้าง
ทั้งนี้ โรงแรมและหน่วยธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานี จะได้รับใบไม้แห่ง “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ลูกค้าและคู่ค้า รับทราบความสำเร็จของการดำเนินงานความยั่งยืนของแต่ละหน่วยงาน โดยระดับที่ 1 จะต้องผ่านเกณฑ์ภาคบังคับ 8 ข้อ ส่วนระดับที่ 2 คือ ผ่านเกณฑ์ระดับ 1 และผ่านเกณฑ์อีก 18 ข้อ ในขณะที่ระดับ 3 ต้องผ่านระดับ 2 และผ่านเกณฑ์อีก 23 ข้อ และระดับที่ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จะต้องผ่านระดับ 3 และผ่านเกณฑ์ 28 ข้อ
“การดำเนินโครงการ Tree of Life ของกลุ่มดุสิตธานี ไม่เพียงแต่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงคุณค่าที่หยั่งรากลึกขององค์กร ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการปฏิบัติด้านธรรมาภิบาล เราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก และสร้างผลกระทบเชิงบวกและยั่งยืนต่อชุมชนที่เราดำเนินงาน โครงการนี้ จะช่วยผลักดันให้โรงแรมหรือธุรกิจของเราทำงานอย่างกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม ส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีให้ลูกค้าและพนักงาน รวมถึงสร้างความแตกต่างที่มีคุณค่าให้กับโลก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าว
โครงการ “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) จะได้รับการดูแลติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงานตามข้อกำหนด รวมถึงให้คำแนะนำในสิ่งที่ต้องปรับปรุง โดยคณะกรรมการเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มดุสิตธานี เพื่อให้โครงการมีความคืบหน้า นอกจากนี้ คณะกรรมการความยั่งยืนจะกำหนดแผนพัฒนาเชิงรุก ออกนโยบายและขั้นตอนใหม่ ๆ เพื่อให้ โครงการเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับมาตรฐานของโลก รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดใหม่ๆ
ทางด้าน มร. จิลส์ เครตัลลาส (Gilles Cretallaz) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มดุสิตธานี กล่าวว่า มั่นใจว่า โครงการ “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) จะทำให้โรงแรมและรีสอร์ทของกลุ่มดุสิตธานีเริ่มต้นการเดินทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่หลอมรวมความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงาน สัญลักษณ์ “ใบไม้” เป็นเครื่องยืนยันว่าโรงแรมและธุรกิจทุกแห่งจะมุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโลกและธรรมชาติ และแขกทุกคนจะได้รับประสบการณ์ยั่งยืนเชิงบวก รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนความยั่งยืนและมั่งคั่งให้กับโลก เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นต่อ ๆ ไป
ทั้งนี้ กลยุทธ์ของกลุ่มดุสิตธานีสำหรับธุรกิจที่ยั่งยืนนั้น สอดคล้องกับ 4 แกนหลักของการให้บริการแบบดุสิต หรือ Dusit Graciousness ซึ่งประกอบด้วย การบริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Service) การบริการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ (Well-being) การบริการที่เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนและคนรอบข้าง (Locality) และการบริการที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม (Sustainability)
ในปี พ.ศ. 2565 โรงแรมและรีสอร์ทของดุสิตธานี ได้กลายเป็นกลุ่มโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดสรรข้าวหอมมะลิออร์แกนิค 100% ให้กับทุกโรงแรมในเครือทั่วราชอาณาจักร ด้วยการซื้อโดยตรงจากฟาร์มขนาดเล็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ให้คุณค่าทางโภชนาการแก่แขก ลูกค้า และพนักงานเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เริ่มจัดหาไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยสำหรับโรงแรม 6 แห่ง โดยปีนี้ กลุ่มดุสิตธานีมีแผนดำเนินโครงการที่ใกล้เคียงกันเพื่อยกระดับการจัดซื้อจัดหาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดตอกย้ำและสะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มดุสิตธานีในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และส่งต่อความยั่งยืนให้กับชุมชนอย่างแท้จริง
-จบ-
ข้อมูลเกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 6 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิตธานี, ดุสิตเดวาราณา, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย และอีลิธฮาเวนส์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 17 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหารและวิทยาลัยการโรงแรมในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีบริษัทเคเทอริ่งที่บริการอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit-international.com